หายสงสัย! ทำไม ของเหลวที่นำขึ้นเครื่องบิน ต้องไม่เกิน 100 มิลลิลิตร

หลายคนอาจเคยต้องทิ้งขวดน้ำหอมที่คุณชื่นชอบ หรือครีมบำรุงผิวที่มีราคาแพงที่สนามบิน เพียงเพราะปริมาณเกินกำหนด มันทำให้เรารู้สึกหงุดหงิด โมโหอย่างมาก จนบ่อยครั้งก็มองว่าทางสนามบินนั้นไม่แฟร์ ระเบียบการอนุญาตให้นำของเหลวเจลและสเปรย์เพียง 100 มล. ติดตัวไว้ในเครื่องบิน นอกเหนือจากสัมภาระที่ตรวจสอบแล้ว กฎนี้ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และในความเป็นจริงมันเพิ่งถูกใช้เมื่อ 10 ปีก่อน

ระเบียบดังกล่าวได้รับการแนะนำในปี พ.ศ. 2549 หลังจากที่ตำรวจอังกฤษได้เปิดเผยแผนการก่อการร้าย ที่ผู้ร้ายพยายามจุดชนวนระเบิดจากของเหลวที่บรรทุกอยู่บนเครื่องบิน บนสายการบินที่เดินทางจากสหราชอาณาจักรไปยังสหรัฐอเมริกา และแคนาดา โชคดีที่แผนการครั้งนี้ถูกสกัดกั้นโดยตำรวจอังกฤษ แต่นำไปสู่การยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดให้กับสนามบินทุกแห่ง

ผลจากเรื่องนื้ทำให้สนามบินของอังกฤษมีการตรวจที่เข้มงวดสุดๆ สายการบินไม่อนุญาตให้มีกระเป๋าเดินทางรวมถึงหนังสือหนัง และกล่องแก้วภายในเครื่องบิน ไม่นานหลังจากนั้น ก็เริ่มมีระเบียบการจำกัดของเหลวในกระเป๋าถือด้วยเช่นกัน มีข้อยกเว้นเล็กน้อยเช่นอาหารของเด็กทารก ซึ่งผู้โดยสารจะต้องลิ้มรสก่อนเป็นอันดับแรกก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่อง

จึงเห็นได้ว่าที่พวกเขาทำไปทั้งหมดนี้ ก็เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อกลั่นกรองของเหลวของผู้โดยสาร แล้วตัดสินใจว่าเป็นภัยคุกคามหรือไม่ อย่างไรก็ตามมันก็ยังมีข้อยกเว้นจำนวนมากสำหรับข้อจำกัดนี้ ซึ่งรวมถึงยาตามใบสั่งแพทย์ หรือนมของเด็กทารก หากคุณต้องการที่จะนำครีมหรือน้ำหอมตัวโปรดขึ้นไปด้วย ลองดูวิธีการในการนำขึ้นเครื่องได้จากด้านล่างนี้

วิธีบรรจุสิ่งของที่นำติดตัว

เก็บของเหลวในภาชนะที่มีความจุไม่เกิน 100 มล. และวางภาชนะเพื่อให้พอดีกับถุงพลาสติกใสที่สามารถปิดผนึกได้อย่างสะดวกด้วยความจุไม่เกิน 1 ลิตร แม้ว่าภาชนะจะมีขนาดบรรจุน้อยกว่า 100 มล. ก็ไม่สามารถนำขึ้นเครื่องได้หากไม่ได้วางไว้ในถุงพลาสติก ขนาดที่แนะนำสำหรับถุงพลาสติกคือ กว้างไม่เกิน 20 ซม. x 20 ซม. ไม่สามารถใช้ถุงที่ขยายได้เนื่องจากความจุจะเกิน 1 ลิตร โดยผู้โดยสารมีหน้าที่รับผิดชอบในการซื้อถุงพลาสติกของตนเอง สามารถซื้อกระเป๋าได้ที่ร้านสะดวกซื้อศูนย์บ้านและที่อื่น ๆ

ในกรณีที่ซื้อของจาก Duty Free สามารถนำขึ้นเครื่องได้เลย เหตุผลก็เพราะว่าสินค้าเหล่านี้ ผ่านการตรวจสอบจาท่าอากาศยานมาแล้ว แต่การจะนำขึ้นไปจะต้องใส่ถุงให้มืดชิด รวมถึงเก็บหลักฐานใบเสร็จเอาไว้กับตัว เพื่อเอาไว้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าซื้อมาจากที่ Duty Free จริง เพียงเท่านี้ทุกคนคงจะพอทราบคำตอบกันแล้ว หากคุณวางแผนจะเดินทางในเร็วๆ นี้ ก็อย่าลืมเอาความรู้ที่ได้ไปปฏิบัติใช้ในถูกระเบียบกันด้วยนะครับ